Ad

Right Up Corner

Ad left side

วันพุธที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2553

เรื่องจริงที่น่าเศร้า

ต้องขอโทษที่ต้องรบกวนเพื่อน ๆ พี่ ด้วย e-mail ฉบับนี้
> > >>>>>แต่หลังจากอ่านแล้วรู้สึกว่า ควรจะส่งต่อให้คนอื่นได้อ่าน
> >
> >>>>>เพราะคุณอาจจะเป็นใครคนหนึ่งที่เป็นเหมือน
> > >>>>>
> > >>>>>"น้ำ 1 แก้ว  ที่หยิบยื่นให้แก่ผู้ที่กำลังจะตายเพราะขาดน้ำ" ได้
> > >>>>>
> > >>>>>
> > >>>>>
> > >>>>>ถึง  เพื่อนทุกๆ คน
> > >>>>>
> > >>>>>        
>เมื่อวันหยุดที่ผ่านมาพัทได้มีโอกาสพาครอบครัวไปเที่ยวภูเก็ต
> > >>>>> อยากเล่าให้เพื่อนๆ ฟัง
> > >>>>> ข้อความอาจจะยาวสักหน่อยแต่อยากขอความกรุณาทุกคนช่วยอ่านให้จบนะคะ
> > >>>>>
> > >>>>>         พัทเลือกเดินทางไปกลับ  Bukit Star Travel    ซึ่งจัด
>Package
> > >>>>>Tour ในราคาโปรโมชั่น 3,999 บวกค่า Service Charge อีก  17%
> >
> >>>>>รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 4,679 บาทต่อคน  ขอบอกว่า   ถูกๆๆๆๆๆๆ  มากๆๆๆๆๆๆ
> > >>>>> เพราะประกอบไปด้วย
> > >>>>>
> > >>>>>                  1.  ค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับ
> > >>>>>
> > >>>>>                  2.  ค่าที่พักโรงแรมระดับ 4 ดาว จำนวน 2  คืน
> > >>>>> (ที่เราสามารถเลือกเองได้ว่าจะพักที่ไหน)
> > >>>>>
> > >>>>>
> > >>>>>                3.  ค่าเข้าชมการแสดงพร้อมดินเนอร์ที่ภูเก็ตแฟนตาซี
> > >>>>> (หากใครยังไม่เคยไปดู
> >
> >>>>> ขอบอกว่า..ครั้งหนึ่งในชีวิตของคุณ..ควรไปที่นี่ ค่ะะ)
> > >>>>>
> > >>>>>
> > >>>>>
> > >>>>>                  4.  ค่าอาหารอีก 6 มื้อ
> > >>>>>
> > >>>>>          การเดินทางในครั้งนี้ประทับใจมากๆ กับหลายๆ
>อย่างที่ได้ประสบ
> > >>>>> ขออนุญาตเล่าเรื่องดีๆ  ที่ประทับใจจนหลายคนอาจน้ำตาไหลให้ฟังกันนะคะ
> > >>>>>
> > >>>>>         วันสุดท้ายของการเดินทาง  (วันอาทิตย์ที่ 24 ก.ค. 2548)
> >
> >>>>> ทางบริษัททัวร์ได้จัดให้เราไปเยี่ยมชมสถานที่ที่ได้รับความเสียหายจากคลื่นสึนามิ
> >
> >
> >>>>> ทั้งในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตและจังหวัดพังงา
> > >>>>> โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่อำเภอเขาหลักที่ได้รับความเสียหายมากที่สุด
> >
> >>>>> ระหว่างการเดินทางบริษัททัวร์ได้จัดไกด์กิติมศักดิ์มาบรรยายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้เราฟัง
> >
> > >>>>>  ซึ่งก็คือ เจ้าของบริษัท Bukit Star Travel
> > >>>>>และเป็นเจ้าของโรงแรมที่เขาหลัก
> > >>>>>ที่พึ่งสร้างเสร็จและเปิดทำการเมื่อวันที่  20 ธันวาคม 2547  คือ
> > >>>>>เปิดได้เพียง 6 วัน
> > >>>>> ทุกอย่างที่เป็นสวรรค์ก็หายไปโดยที่ยังไม่ได้ทำประกันภัย
> > >>>>> และยังไม่ได้แม้แต่จะเอาเงินจากตู้เซฟที่ได้จากการเปิดดำเนินการเพียง
> 6
> >
> > >>>>>วันนั้นออกมาใช้    ไกด์กิติมศักดิ์ผู้นี้  ชื่อว่า คุณอี้
> >
> >>>>>จึงถือเป็นผู้ที่สูญเสีย 100%  จากภัยพิบัติในครั้งนี้
> > >>>>>
> > >>>>>         คุณอี้  ได้เปิดวีซีดีรวมภาพสึนามิให้พวกเราดู
> > >>>>> โดยบรรยายภาพประกอบ ซึ่งมีอยู่ 1 เรื่อง
> > >>>>> ที่ทำให้ทุกคนบนรถทัวร์ต้องน้ำตาซึม  คือ
> > >>>>> ภาพผู้ชายคนหนึ่งที่กำลังอุ้มลูกน้อยวัยสองเดือนอยู่กับอก
> > >>>>> มืออีกข้างจับอยู่กับกิ่งไม้ (ต้นสนใหญ่)  ไว้แน่น   และมีมือเล็กๆ
>อีก
> >2
> > >>>>>ข้าง  กอดอยู่รอบคอของเค้า   ซึ่งก็คือ ลูกสาววัย 5  ขวบ
> > >>>>>ที่กอดคอพ่อไว้แน่น   ตลอดเวลาที่ 3  ชีวิตกำลังต่อสู้กับคลื่นยักษ์
> > >>>>> ผู้เป็นพ่อบอกกับลูกน้อยวัย 5 ขวบ ของตนเองอยู่ตลอดเวลาว่า
> >
> >>>>> "หนูมีแรงเท่าไรกอดคอพ่อไว้ให้แน่นนะลูก...อย่าปล่อยมือเด็ดขาด"
> >
> >>>>> หากเราจะตาย...ก็ขอให้เรากอดคอตายไปด้วยกัน...เราจะได้ไปอยู่บนสวรรค์กับแม่กันนะ....
> >
> > >>>>>   ผู้ชายคนนี้รอดชีวิตมาได้พร้อมกับลูกน้อย 2 คน  ของเค้า
> > >>>>> แต่ได้สูญเสียภรรยาอันเป็นที่รักไป
> >
> >>>>> ซึ่งเป็นสิ่งที่เค้าเสียใจอย่างที่สุดที่ไม่สามารถช่วยชีวิตภรรยาของเค้าไว้ได้
> >
> >
> >>>>> แต่ความเข้มแข็งและอดทนของเค้าในการปกป้องลูกรักด้วยมือเพียงข้างเดียวที่ยึดไว้กับต้นสนใหญ่นั้นทำให้ทุกคนบนรถทัวร์ร้องไห้ไปตามๆ
> >
> > >>>>> กัน
> > >>>>>
> > >>>>>          เมื่อเดินทางมาถึงเขาหลัก
> >
> >>>>>คุณอี้ได้พาพวกเราไปแสดงความไว้อาลัยแด่ผู้ที่จากไป
> >
> >>>>> พร้อมร่วมกันช่วยเหลือและให้กำลังใจผู้ประสบภัยที่รอดชีวิตด้วยการช่วยกันซื้อผลิตภัณฑ์จักสาน
> >
> > >>>>> (เป็นตระกร้าและกระเป๋าพลาสติก)
> > >>>>>ที่ทำขึ้นโดยพวกชาวบ้านที่ยังมีชีวิตเหลือรอดอยู่  เช่น พวกชาวมอร์แกน
> > >>>>>เป็นต้น   ซึ่งบางครอบครัวสูญเสียผู้นำครอบครัวไปเหลือเพียงยายกับหลาน
>2
> > >>>>> คน  ที่ตั้งหน้าตั้งตาช่วยกันสานตระกร้าให้ได้มากที่สุด  
>ก่อนที่ทุกๆ
> > >>>>>สุดสัปดาห์  คุณอี้จะขับรถไปรับซื้อตระกร้าจากครอบครัวต่างๆ
> > >>>>> มารวมกันไว้และนำออกขายให้แก่คณะนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยือน
> > >>>>>หากสัปดาห์ใดไม่มีนักท่องเที่ยวมา  ก็หมายความว่า...  ตระกร้าต่างๆ
> >
> >>>>>ที่เหลือคุณอี้จะเป็นคนรับซื้อไว้ทั้งหมดแล้วก็รอโอกาสดีๆ
> > >>>>> ที่รัฐบาลจัดงาน OTOP ตามสถานที่ต่างๆ
> ที่เสียค่าเช่าพื้นที่ไม่แพงนัก
> > >>>>> คุณอี้ก็จะนำตระกร้าเหล่านั้นออกวางขาย
> > >>>>> นี่ถือเป็นส่วนหนึ่งในน้ำใจชาวภูเก็ตที่พยายามช่วยเหลือพวกเค้ากันเอง
> > >>>>> พยายามสร้างงานให้ชาวบ้านมีอะไรทำจะได้ไม่รู้สึกสิ้นหวัง
> > >>>>>สร้างอาชีพและรายได้ให้ชาวบ้านดำรงชีพต่อไปได้
> > >>>>>และน้ำใจของนักท่องเที่ยวที่ไปเยือนก็เปรียบเสมือนน้ำ 1 แก้ว
> > >>>>> ที่ยื่นได้แก่ผู้ที่กำลังกระหายน้ำอย่างที่สุด
> > >>>>>เพราะเมื่อมีนักท่องเที่ยวก็จะมีการไหลเวียนของรายได้
> > >>>>> เมื่อมีรายได้ก็มีความหวังที่จะดำรงชีวิตอยู่ต่อไป
> > >>>>>
> >
> >>>>>          อีกเรื่องหนึ่งที่ประทับใจและอยากเล่าให้เพื่อนๆ
> > >>>>> ทุกคนฟังไว้เป็นคติเตือนใจเมื่อยามใดที่คุณรู้สึกท้อแท้และสิ้นหวัง
> > >>>>> ขอให้ระลึกถึงผู้สูญเสีย 100% เต็มอย่างคุณอี้
> > >>>>> ว่าทำไมเค้าถึงสามารถทำใจได้กับเหตุการณ์ความสูญเสียที่เกิดขึ้น
> >
> >>>>> และยังสามารถกลับมาเป็นผู้นำความหวังมาสู่ชาวบ้านที่ยังเหลืออยู่ได้อีกต่างหาก
> >
> > >>>>>
> > >>>>>
> > >>>>>
> > >>>>>         คุณอี้เล่าให้เราฟังว่า  6 วันที่ตนเองเป็นเศรษฐี
> >
> >>>>> มีกิจการบริษัทัวร์ในภูเก็ตและมีโรงแรมหรูบนหาดทรายสวยที่เขาหลักซึ่งกำลังได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวอย่างมาก
> >
> > >>>>>
> >
> >>>>> ในเช้าวันที่เกิดเหตุการณ์คุณอี้อยู่ที่ภูเก็ตและกำลังจะเดินทางไปที่โรงแรมเพื่อเปลี่ยนเวรกับลูกน้องที่เป็นผู้จัดการโรงแรม
> >
> > >>>>>
> > >>>>>
> > >>>>>         เวลา 10.00 น.
> >
> >>>>> มีรถตู้ของบริษัทที่กำลังเดินทางไปโรงแรมที่เขาหลักโทรศัพท์มาบอกคุณอี้ว่า
> >
> > >>>>> "พี่..ตอนนี้ตำรวจดักไม่ให้รถผ่านเข้าไป..บอกว่าน้ำท่วม"
> >
> >>>>> คุณอี้โทรศัพท์ไปสอบถามที่โรงแรม..ลูกน้องที่เป็นผู้จัดการโรงแรมรับสายบอกว่า..
> >
> > >>>>> "ไม่เห็นมีอะไรนี่ค่ะ ...
> >
> >>>>> เมื่อคืนนี้แขกเต็มทุกห้องเลย..ทุกคนมีความสุขกันมาก..ตอนนี้ของแห้งต่างๆ
> >
> > >>>>> น้ำดื่มและเบียร์หมดเกลี้ยงเลย
> >
> >>>>> ...พี่ยังไม่ต้องรีบมาหรอกนะ..ไปแวะซื้อของแห้งมาก่อน
> > >>>>> ...เดี๋ยวหนูจะยังไม่ออกเวรจะอยู่ดูแลแขกให้เอง"
> > >>>>>
> > >>>>>         ต่อมาประมาณ 10.20  น.
> > >>>>> รถตู้อีกคันหนึ่งของบริษัทโทรศัพท์กลับมาบอกว่า
> >
> >>>>> "พี่ครับ...แย่แล้ว...เค้าบอกว่ามีคลื่นยักษ์...ไม่ให้เข้าไปในพื้นที่เขาหลัก"
> >
> > >>>>> คุณอี้รีบโทรศัพท์กลับไปที่โรงแรมอีกครั้ง
> > >>>>> ลูกน้องที่เป็นนายช่างรับสายบอกว่า
> > >>>>> "ไม่มีอะไรนี่ครับ..แขกทุกคนพึ่งจะรับประทานอาหารเช้าเสร็จ
> > >>>>> พวกผมพึ่งได้กินข้าวเช้ากันนี่แหละครับ"  คุณอี้รีบพูดไปตามสายว่า
> >
> >>>>> "ให้ทุกคนหยุดกินข้าว..แล้วไปเรียกแขกทุกคนให้รีบหนีขึ้นที่สูงให้หมด..ตอนนี้มีคลื่นยักษ์เข้ามา"
> >
> > >>>>> คำพูดนี้...คุณอี้บอกว่า  "หากย้อนเวลากลับไปได้จะไม่พูดคำนี้
> > >>>>> ...เพราะเมื่อบอกว่ามี ..คลื่นยักษ์..
> >
> >>>>> ลูกน้องแทนที่จะรีบหนี..กลับรีบวิ่งไปดู..ก็พบว่าน้ำทะเลกำลังลดลงอย่าง รวดเร็ว..แขกบางคนก็เล่นจับปลาที่ค้างอยู่บนหาดเพราะลงทะเลไม่ทันเนื่องจาก น้ำทะเลลดลงเร็วมาก
> >
> > >>>>> .. "  ลูกน้องของคุณอี้ 20  กว่าคน  เสียชีวิตเกือบทั้งหมด
> > >>>>> เหลือรอดมาได้เพียง 6 คน คือ 3 คน  ที่ไม่ได้เข้าเวร   กับอีก 3
> > >>>>> คนที่รีบวิ่งหนีขึ้นที่สูงได้ทัน
> > >>>>>
> > >>>>>
> >
> >>>>>เจ้าของกิจการที่สูญเสียทรัพย์สินที่พึ่งสร้างขึ้นมาด้วยการกู้เงินจากธนาคารมา18
> >
> > >>>>> ล้านบาท  นอกนั้นเป็นเงินส่วนตัวทั้งหมด
> > >>>>> และสูญเสียชีวิตของลูกน้องที่เมื่อวานพึ่งคุยกันอยู่
> >
> >>>>> เมื่อวานพึ่งวางแผนการจัดงานเลี้ยงฉลองปีใหม่ที่กำหนดกันว่าจะจัดขึ้นในวันที่
> >
> > >>>>> 4 มกราคม 2548
> >
> >>>>> เมื่อวานพึ่งได้มีความสุขร่วมกันจากกิจการที่กำลังรุ่งเรืองที่มีแขกเข้าพักเต็มทุกห้องตลอด
> >
> > >>>>> 6 วันที่พึ่งเปิดดำเนินการมา
> > >>>>> ...หากเป็นเรา..ก็คงเป็นบ้าหรือไม่ก็ฆ่าตัวตายไปแล้ว...
> > >>>>>
> > >>>>>
> >
> >>>>>คุณอี้และสามีพยายามอย่างเต็มที่ที่จะเข้าไปให้ถึงพื้นที่ตั้งของโรงแรม
> >
> >>>>> โดยลงเดินด้วยเท้าเป็นระยะทางกว่า 7 กิโลเมตร ใช้เวลากว่า  3 ชั่วโมง
> > >>>>>เพื่อเข้าไปให้ถึงพื้นที่
> > >>>>> ตลอดระยะเวลาที่เดินผ่านหากเห็นผู้ที่นอนคว่ำหน้ามีผมสีดำ
> > >>>>> ก็จะใช้มือผลิกขึ้นมาดูหน้าว่าใช่ลูกน้องของตนเองหรือไม่...
> >
> >>>>> คุณอี้และสามีใช้เวลาอยู่สองชั่วโมงกว่าในการค้นหาผู้รอดชีวิตและศพของลูกน้อง...
> >
> > >>>>> หลังจากนั้นคุณอี้ก็เริ่มควบคุมตนเองไม่ได้
> >
> >>>>> เริ่มทุบตีตนเองเพื่อขอให้ตื่นจากความฝัน...เริ่มร้องไห้จนแทบจะขาดใจ..
> > >>>>>
> > >>>>>
> > >>>>>          สามีผู้มีสติพาคุณอี้ส่งโรงพยาบาล  3
> > >>>>> วันต่อมาหลังหมดฤิทธิ์ยานอนหลับ  คุณอี้ตื่นขึ้นมาพบลูกน้องอีก
>30
> > >>>>>กว่าชีวิต
> >
> >>>>> ซึ่งเป็นลูกน้องในส่วนของบริษัททัวร์ที่ภูเก็ตห้อมล้อมอยู่รอบเตียงโรงพยาบาล
> >
> > >>>>> คำพูดหนึ่งที่เรียกสติของคุณอี้ให้กลับคืนมาก็คือ
> >
> >>>>> "คุณอี้ใจร้าย..คนที่ตายไปแล้วจะไปร้องไห้ฟูมฟายเรียกร้องกลับมาอยู่ทำไม
> >
> > >>>>>  ชีวิตคนเป็นที่ยังรออยู่อีก 30  กว่าชีวิตทำไมถึงไม่คิดถึง
> > >>>>>หากคุณอี้ไม่เข้มแข็งแล้วพวกเราจะอยู่กันอย่างไร"
> > >>>>>
> > >>>>>
> >
> >>>>>ทุกวันนี้คุณอี้เป็นผู้นำที่พยายามทุกวิถีทางให้ ลูกน้องและชาวบ้านพอที่จะมีรายได้จุนเจือชีวิตให้ดำรงอยู่ต่อไปได้
> >
> >
> >>>>> ในขณะที่สามีที่มีสติที่สุดในวันนั้นปัจจุบันต้องเข้ารับการรักษาตัวที่ โรงพยาบาลจากโรคเครียดที่พยายามโทษตนเองอยู่ตลอดเวลาว่าเป็นผู้ที่เลือกทาง เดินผิดให้แก่ครอบครัวที่เอาเงินทั้งหมดที่มีมาลงทุนในกิจการโรงแรม
> >
> > >>>>>  ครอบครัวนี้มีหนี้สินอยู่อีก 18 ล้านบาท  ที่ต้องรับผิดชอบ
> > >>>>>มีชีวิตลูกน้องอีก 30
> > >>>>> กว่าชีวิตรวมกับครอบครัวของแต่ละคนอีกรวมเป็น
> >60  กว่าชีวิตที่ต้องรับแบก
> > >>>>>  มีชาวบ้านอีกนับไม่ถ้วนที่ต้องจุนเจือ
> > >>>>>
> > >>>>>        
>พัทเขียนเรื่องนี้ขึ้นมาจากความรู้สึกที่ได้ไปประสบมากับตนเอง
> >
> >>>>> พวกเราใช้เวลาว่างในวันหยุดสุดสัปดาห์เดินทางมาเที่ยวเพื่อหาความสุขใส่ตัวเองและครอบครัว
> >
> >
> >>>>> แต่สิ่งที่ได้กลับมามันไม่ใช่แค่ความสุขจากการไปเที่ยว
> > >>>>> เราได้รับคำขอบคุณจากชาวอันดามัน
> > >>>>> ผู้ที่ถือว่าพวกเราที่เดินทางไปเที่ยวทุกคนนั้น คือ
> > >>>>> ผู้มีพระคุณของพวกเขา   เราคือน้ำ 1 แก้ว
> > >>>>> ที่หยิบยื่นให้แก่ผู้ที่กำลังจะตายเพราะขาดน้ำ
> > >>>>> ความรู้สึกตื้นตันที่ได้รับจึงถือเป็นความสุขที่ไม่อาจบรรยายได้
> > >>>>>
> > >>>>>
> > >>>>>พัทตั้งใจอย่างแน่วแน่ที่จะช่วยเผยแพร่ประชาสัมพันธ์และชักชวนเพื่อนๆ
> > >>>>> และคนรู้จักให้เดินทางไปเที่ยวที่ภูเก็ต
> > >>>>> และหากเป็นไปได้อยากให้ใช้บริการของ Bukit Star Travel
> > >>>>> แม้จะมีข้อเสียอยู่บ้าง เช่น  สายการบินไป-กลับ
> >
> >>>>>  ไม่ใช่สายการบินไทย  มีการเลื่อน  Flight บินและ Delay
> > >>>>>เป็นเวลาหลายชั่วโมง    อาหารที่ทัวร์จัดเลี้ยงจะเป็นอาหารพื้นๆ
> >ไม่หรูหรา
> >
> >>>>> เพราะต้องประหยัดเนื่องจากแทบไม่มีกำไรจากการจัดทัวร์ในระดับราคาเพียงเท่านี้
> >
> > >>>>> แต่นั่นเป็นเป็นสิ่งบกพร่องเล็กๆ น้อยๆ
> > >>>>> เมื่อเปรียบเทียบกับความสุขที่คุณจะได้รับจากการท่องเที่ยว
> >
> >>>>> และความสุขใจที่คุณจะได้รับจากคำขอบคุณที่พนักงานบริษัททัวร์ทุกคนมอบให้
> >
> > >>>>>
> > >>>>>
> > >>>>>          เขียนมายาวมาก  หากเพื่อนคนไหนอ่านได้จนจบมาถึงตรงนี้
> > >>>>> พัทก็หวังว่าเรื่องทั้งหมดที่เล่ามานี้จะพอทำให้เพื่อนๆ
> >
> >>>>> อยากที่จะลงไปเที่ยวอันดามันกันบ้าง
> > >>>>> หรืออย่างน้อยที่สุดก็คงได้รับความรู้สึกดีๆ กำลังใจดีๆ
> > >>>>> จากเนื้อเรื่องของผู้สูญเสียในครั้งนี้    และหากเพื่อนๆ
> > >>>>> เห็นว่าข้อความนี้มีประโยชน์ก็ขอความกรุณาช่วยส่งต่อกันไปนะคะ
> > >>>>> ส่วนใครที่สนใจจะไปเที่ยวโดย Bukit Star Travel ก็สามารถติดต่อได้ที่
> > >>>>>คุณลี่ (ลูกสาวเจ้าของ) น้องแนท หรือ น้องปัท  (ไกด์ทัวร์)
> > >>>>>ได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 076-261-121  หรือ 09-871-8981  หรือที่อีเมล์
> > >>>>> little_chunlee@hotmail.com
> > >>>>>
> > >>>>>ขอบคุณทุกๆ คน มากๆ ค่ะ
> > >>>>>
> > >>>>>พัทยา  หิรัญตีรพล
> > >>>>>

yengo ad

BumQ