Ad

Right Up Corner

Ad left side

วันอาทิตย์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

ตั้งสติ เมื่อ เจอภัย

>>  > +++ เชื่อว่า  คนส่วนมากคงจะเคยอ่านเรื่องราวลักษณะนี้มากันแล้ว
>> > >
>> > > กลยุทธ์ที่มันใช้  ไม่ต่างจากที่เคยอ่านกันมา
>> > > แต่ที่ตัดสินนำเรื่องที่เพิ่งเจอมาบอกต่อกันอีกครั้งนึงนี้
>> > >
>> > > เนื่องจากเป็นภัยใกล้ตัว  ไม่ต้องการให้ผู้หญิงทุกคนประมาท
>>พวกมิจฉาชีพ
>> > > ยังมีอยู่ทั่วไป
>> > >
>> > > และเราก็เห็นถึงความสำคัญของการบอกต่อเรื่องราวลักษณะนี้
>> > >
>> > > เพื่อให้พวกเรามีสติอยู่เสมอ  ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใดค่ะ
>>+++
>> > >
>> > >
>> > >
>> > > วันที่ 6 ต.ค. 2548(เมื่อวานเย็น)  เราออกจากที่ทำงาน ตึก
>> > > SoftwareParkแจ้งวัฒนะ เวลา
>> > > ประมาณ 6.15 น.  ยังไม่มืดดี
>> > >
>> > >
>>ขับรถกลับคนเดียวในลักษณที่เอนเบาะมากกว่าปกติ  เนื่องจากไม่ค่อยสบาย
>> > > ปวดท้องมาก จึงค่อยๆขับไป
>> > >
>> > > รถบนถนนแจ้งวัฒนะตอนนั้น  ค่อนข้างเยอะ ติดเป็นพักๆ
>>ไหลบ้างเอื่อยๆ
>> > > รถเราฟิล์มใส
>> > > (ก้อน่าจะมองเห็นจากข้างนอกได้ง่าย)
>> > >
>> > > เราก็เดินทางกลับบ้าน  (ทางรังสิต)  พอเลยแยกเมืองทองไป
>> > > เห็นรถติดยาวมากจากแยก บิ๊กซี  เลย
>> > > ตัดสินใจกลับทางลัด
>> > >
>> > >
>> > >
>> > > ก็เลี้ยวเข้าถนนเลียบคลองประปา  ขณะนั้น เริ่มมืดแล้ว
>>แต่รถก็เยอะตามปกติ
>> > >
>> > > เมื่อผ่านแยกสรงประภา,ศรีสมาน  เราก็ไปทางถนนวัดนาวง เป็นถนนแคบๆ
>>2 เลนสวน
>> > >
>> > > เมื่อจอดรถติดอยู่อยู่ดีๆ
>>ก็มี  มอเตอร์ไซด์มาขนาบทางด้านซ้ายของรถ
>> > > และใช้มือทุบกระจกด้านที่นั่งข้าง
>> > > คนขับ  “ปึงปึง”
>> > >
>> > > เราหันไปมอง  เขาทำมือทำไม้อะไรสักอย่าง
>>ชี้ที่รถเขาและชี้ไปด้านหน้า
>> > >
>> > > เราก็งง นึกว่าเขาให้เขยิบขวา  เพราะจะแซงซ้าย เนื่องจากถนนแคบ
>> > > และมอไซด์มักจะทำแบบนี้บ่อย
>> > >
>> > > เราก็เถิบให้เขานิดนึง เขาตามมา  เคาะอีกที “ปึงปึง”
>>แล้วก็พูดอะไรสักอย่าง
>> > >
>> > >
>> > >
>> > > เราเลยเลื่อนกระจกนิดนึง ปิดวิทยุ  ฟังว่าเขาพูดอะไร
>> > >
>> > > “คุณขับรถเบียดซ้ายผม  ทำผมล้ม โดนรถคุณด้วยเนี่ย!!” เรางง
>>ถามไปว่า
>> > > “ตรงไหนคะ ไม่รู้ตัวเลย”
>> > >
>> > > เขาพูดต่อ ว่า “เนี่ย ผมเจ็บนะนี่ (โชว์แขนซ้ายให้ดูด้วย
>> > > มีเลือดเต็มแขนไปถึงมือ) ทำไมขับรถแบบนี้
>> > > เห็นเป็นมอไซด์เหรอ  ทำไมไม่ระวัง”
>> > >
>> > > “ผมขับตามคุณมาตั้งนานนี่ กว่าจะทัน จะหนีเหรอ” เราก้บอกว่า
>>“เปลาค่ะ
>> > > แต่ไม่รู้ตัวจริงๆ”
>> > >
>> > > “ก็เปิดวิทยุดังขนาดนี้ จะได้ยินได้ไง”
>>เรางงอยู่  แล้วรถหลังก้อบีบแตรไล่
>> > > เพราะจอดนานพักนึง  เขา
>> > > เลยบอก
>> > >
>> >
>> > “ไปจอดคุยกันก่อนเลย” เขาก็ชี้ข้างหน้า  แล้วก็เร่งมอไซด์นำไป
>> > >
>> > > ตอนนั้น งงมาก ตกใจด้วย เห็นเลือด  มือสั่นเลยค่ะ
>> > >
>> > >
>> > >
>> > > ก็ขับรถเลยจากจุดนั้นไปประมาณ  100  เมตรมีหมู่บ้าน โนเบิล
>>(มั้งคะ)
>> > > เขาจอดรถหน้าหมู่บ้าน  ตรง
>> > > ที่เป็น site ก่อสร้าง
>> > >
>> > > เราก็มองดูแล้ว  ไม่ไกลจากป้อมยามหมู่บ้านมากนัก เลยคิดว่า
>>คงไม่เป็นไร
>> > >
>> > >
>> > >
>> > > เขามาคนเดียว ใส่ชุดซาฟารีสีเทาๆ  แขนสั้น อายุประมาณ
>>30 ปลายๆ
>> > > ก็เดินมาคุยตรงข้างคนขับ
>> > > เราเลยเลื่อนกระจกลงนิดนึง “ขับรถยังไงนี่ มาเบียดได้ไงนี่
>>รถผมพัง
>> > > เจ็บด้วยนี่ (โชว์แขนอาบเลือด
>> > > อีกครั้ง) ตามมาตั้งแต่คลอง
>> > > ประปาเนี่ย  จะหนีเหรอ”
>> > >
>> > > เราก็งงว่าตอนไหนเนี่ย ตกใจด้วย  เห็นเขาเจ็บ เลยบอกเขาว่า
>> > > “ขอโทรศัพท์ก่อนนะคะ” เขาก็บอก
>> > > ว่า “เร็วๆนะ รีบ”
>> > >
>> > > เราก็โทรหาแฟนเพราะนึกอะไรไม่ออก  จะถามเขาว่า “เป็นไปได้เหรอ
>> > > ชนแล้วไม่รู้เลยน่ะ ทำไงดี”
>> > >
>> > > คุยไม่ทันไร ยังไม่ทันรู้เรื่องเลย  แบตดันหมด (ซวยมาก)
>> > >
>> > >
>> > >
>> > > เลยตั้งสติหายใจเข้าลึกๆ  นึกตามที่เคยอ่านมา คิดว่า
>> > > ยังไงก็ไม่ยอมลงรถไว้ก่อน  เลยเปิดกระจกคุย
>> > > กับเขาอีกครั้ง
>> > >
>> > > เขาก็ถามว่า “เอาไงล่ะ” เราขอยืมโทรศัพท์เขา ที่เหน็บไว้ที่เอว
>> > > บอกขอโทรหาแฟนก่อน
>> > >
>> > > เขาบอก “โทรศัพท์ผมไว้รับอย่างเดียว โทรออกไม่ได้ ของที่ทำงาน”
>>[พิรุธที่
>>1]
>> > > “โน่นไง  ตู้
>> > > โทรศัพท์”
>> > >
>> > > เราบอกไม่ล่ะ เลยถามเขาว่าชนตอนไหน  ยังไง เขาบอกว่า
>> > > “ตอนที่เลี้ยวเข้าคลองประปาน่ะ คุณ
>> > > เบียดผม  ล้มตกขอบ”
>> > >
>> > > เราก้นึก เอ  ทำไมไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย หรือว่า
>>เขาล้มเองแล้วจะเอาผิดกับเรา
>> > >
>> > > แล้วถ้าตามมาจริงๆ  น่าจะทันตอนที่เราติดไฟแดงแยกสรงประภาศรีสมาน
>> > > เพราะติดอยู่ค่อนข้างนาน
>> > > ไม่น่าจะมาทันตอนที่อยู่เส้นวัดนาวงนี้ [พิรุธที่2]
>> > >
>> > > ระหว่างที่คิด
>>เขาก็พูดว่าเรา  บอกว่าเจ็บ ว่ารถเขาพังเนี่ย
>> > > (เราไม่ได้ใส่ใจมาก พราะเรากะลังรวบ
>> > > รวมสมาธิอยู่)
>> > >
>> > > เขาก็บอก “จะเอาไงนี่ จะลงมาดูไหมล่ะ  เดี๋ยวหาว่าผมโกหก”
>> > >
>> > >
>> > >
>> > > เราก็นึกขึ้นได้ ว่าจุดนั้น  ห่างจากแฟลต ทอ. นิดเดียวเอง
>>เลยบอกเขาว่า
>> > > “เราต้องเรียกประกันนะ
>> > > ถ้าจะให้จ่ายน่ะ” เขาก็โวยวายก่อนเลยว่า
>> > >
>> > > “โอยผมไม่มีเวลารอหรอกนะ ผมรีบ เนี่ย ต้องไปทำแผลด้วย
>>ไม่รู้ต้องเย็บเปล่า
>> > > สงสัยศอกจะแตก”
>> > >
>> > > เราแกล้งบอกว่า
>>“ไปคุยที่บ้านเราละกัน บ้านเราอยู่ในเขตแฟลตทหารนี่เอง
>>ประมาณ
>> > > 300 ม.รู้จัก
>> > > ไหม”
>> > >
>> > > เขาถามตรงไหน เราบอกว่า  “นี่ย  เลี้ยวเข้าไปนี่น่ะ ก่อนถึง
>>สน.ดอนเมืองน่ะ
>> > > รู้จักไหม  สน.ดอน
>> > > เมืองน่ะ”
>> > >
>> > > เขาก็บอก “เขารีบไป ไม่มีเวลาหรอกนี่
>>เดี๋ยวต้องรอปรกันอะไรกว่าจะมาอีก
>> > > เคลียร์ตรงนี้ล่ะ ลงมา
>> > > คุยให้รู้เรื่อง” [พิรุธที่3]
>> > >
>> > > เราบอก เราไม่ลง  นอกจากจะไปคุยที่บ้าน จะให้แฟนมาคุย
>>แฟนอยู่ตรงนี้เนี่ย
>> > > เป็นทหารอยุ่ในนั้น
>> > > (มั่วไปก่อน)
>> > >
>> > > เขาว่า “คุณจะบ้าเหรอ มากลัวอะไรผมผมมาคนเดียวนี่ ผมเจ็บอยู่นี่
>> > > จะไปทำอะไรคุณ ตรงนี้ก้อไม่ได้
>> > > เปลี่ยวขนาดนั้น  โน่นยามก็อยู่โน่น”
>> > >
>> > > เราบอก “เข้าใจหน่อยนะคะ ดิฉันเป็นผู้หญิง ก็ต้องกลัวไว้ก่อน
>>ที่นี่
>> > > ก็เป็นที่ๆดิฉันไม่คุ้นด้วย  บอกตรงๆ
>> > > ไม่ไว้ใจค่ะ”
>> > >
>> > > ก้อบอกเขาให้ตามไปที่บ้าน  อีกนิดเดียวเอง
>> > >
>> > >
>> > >
>> > > “ผมจะรีบไป  แล้วผมก็จะไปทางรังสิต ไม่ได้ไปทางบ้านคุณ
>>เอางี้ละกัน
>> > > มีเงินไหมละ จ่ายมา 2000
>> > > ละกัน ผมจะเอาไปทำแผลกะซ่อมรถ” [พิรุธที่ 4  ไม่ยอมตามไปที่บ้าน]
>> > >
>> > > เราบอกไม่มีหรอก ถึงมีก็ยังไม่จ่าย  เพราะยังไม่รู้ว่า ผิดตรงไหน
>> > > ขอให้ตามไปที่บ้านให้แฟนมาคุยก่อน
>> > > ถ้าผิดจริงยังไงก็จ่าย ไม่หนีหรอก
>> > >
>> > > “ไรวะเนี่ย ขับรถแพงๆ  เงินแค่นี้ก็ไม่มี” เริ่มรมณ์เสีย ท้าวเอว
>> > >
>> > > เรายืนยัน จะไปที่คุยที่บ้านเท่านั้น  ไม่จ่าย ไม่ลง
>> >
>> >
>> > >
>> > >
>> > > “โห แ-ง เอ้ย
>> > > @#$)_*$^#()@#@)&%$^*@&#_#@#*@++!@*!&&$^#&$#^%#&$)#$^#$^#_$&@#”
>> > > ด่าหยาบคาย แจกของให้เต็มไปหมด
>> > >
>> > > แล้วมันก็สตารท์เครื่องหนีไป  พยายามมองทะเบียนแล้ว
>>แต่มันไม่ติดทะเบียนที่รถ
>> > >
>> > > เราก็ตรงกลับบ้านเลย
>>ไม่กล้าแวะไหน  (จะโทรบอกแฟนยังไม่กล้าแวะเลย)
>> > > เพราะไม่รู้ว่า  มันยังอยู่
>> > > แถวนั้นหรือเปล่า...
>> > >
>> > >
>> > >
>> > > เลยคิดว่า มันใช้มุกเดิมๆนี้  คงเป็นพวกโจรกะจอก เพราะเหตุแบบนี้
>> > > เคยเกิดมาแล้ว
>> > >
>> > > ถ้าเหยื่อติดต่อใครได้  มันคงจะใช้ช่วงเวลาที่รอคนอื่นมา
>>อ้างอะไร
>> > > (อาจจะอ้างเจ็บแขนหรืออะไรก็ตาม)  แล้วขอเอาเงินไปเท่านั้น
>> > >
>> > > หรือ ถ้าเหยื่อใจร้อน ลงไปดูรถ  จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าเผื่อที่นั่น
>> > > (ที่เราคิดว่าปลอดภัยเพราะมีป้อมยาม)
>> > > มีแต่พวกมัน
>> > >
>> > >
>> > >
>> > > ที่นำมาเตือนอีกครั้ง  เพราะไม่อยากให้ผู้หญิงเราประมาท
>>ตั้งสติไว้ก่อน
>> > > อย่าผลีผลาม  เพราะบางครั้ง
>> > > เราก็ไม่รู้ว่ามันมีอะไรแอบแฝงหรือเปล่า
>> >
>> >
>> > > และเราเห็นความสำคัญของการแชร์ประสบการณ์แบบนี้
>> > > เพราะเราเองก็ตั้งสติเอาตัวรอดมาได้ เพราะ
>> > > การอ่านเมล์ forward  แบบนี้นี่แหละ
>> > >
>> > >
>> > >
>> > > ให้ผู้หญิงทุกคน ตั้งสติ  และคิดให้รอบคอบ
>>และขอขอบคุณทุกคนที่เคยนำมาแชร์ไว้
>> > > ทำให้เรามีสติ
>> > > ปลอดภัยมาได้  ขอบคุณค่ะ

yengo ad

BumQ