วันเสาร์ที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2554
อ้าวเหรอ...(จิงอ่ะ)
ผู้หญิงอ้วนมักจะนิสัยดี
ผู้หญิงหน้าตาดีมักจะมีแฟนเป็นทอม
ผู้หญิงน่ารักแฟนมักจะไม่หล่อ
ผู้หญิงที่แฟนหล่อจำเป็นต้องรวย
ผู้หญิงอยากรวยต้องมีแฟนคราวพ่อ
ผู้หญิงช่างจ้อมีแฟนมากมาย
ผู้หญิงขี้อายมักเซ็กส์จัด
ผู้หญิงอวบอัดมักทำศัลยกรรม
เค้าว่ากันว่า....
ผู้ชายนิสัยดีมักจะขี้เหร่
ผู้ชายที่หล่อมักไม่สุภาพ
ผู้ชายที่ทั้งหล่อ และสุภาพ มักเป็นเกย์
ผู้ชายที่หล่อ สุภาพ และไม่ใช่เกย์ มักแต่งงานแล้ว
ผู้ชายที่ไม่ค่อยหล่อ และนิสัยดี มักไม่มีสตางค์
ผู้ชายที่หล่อ นิสัยดี และมีสตางค์ มักจะคิดว่าเราเห็นแก่สตางค์ของเขา
ผู้ชายที่หล่อ แต่ไม่มีสตางค์ มักจะเห็นแก่สตางค์ของเรา
ผู้ชายที่หล่อและเป็นชายแท้ แต่นิสัยไม่ดี มักจะคิดว่าเราไม่สวยพอ
ผู้ชายที่เห็นว่าเราสวย และเหมาะกับเขา มักเป็นคนขาดความมั่นใจ
ผู้ชายที่หล่อ สุภาพ มีฐานะ และเป็นชายแท้ มักจะขี้อาย และกลัวการเริ่มต้น
ผู้ชายที่กลัวการเริ่มต้น มักเป็นผู้ชายที่ผู้หญิงไม่สนใจ
เค้าว่ากันว่า....
ผู้หญิงเก่งมักชอบบงการ
ผู้หญิงเก่งที่ไม่ชอบบงการ มักเสแสร้งเฉพาะช่วงแรกๆ
ผู้หญิงสวยมักจะโง่ แต่ผู้หญิงโง่ๆ มักจะรวย
ผู้หญิงที่ไม่โง่ และรวย มักไม่ยอมแต่งงาน
ผู้หญิงที่ไม่โง่ รวย และไม่ยอมแต่งงาน มักชอบคนมีครอบครัวแล้ว
เอ... แล้วคุณล่ะเป็นแบบไหน อิอิ!!
ผู้หญิงหน้าตาดีมักจะมีแฟนเป็นทอม
ผู้หญิงน่ารักแฟนมักจะไม่หล่อ
ผู้หญิงที่แฟนหล่อจำเป็นต้องรวย
ผู้หญิงอยากรวยต้องมีแฟนคราวพ่อ
ผู้หญิงช่างจ้อมีแฟนมากมาย
ผู้หญิงขี้อายมักเซ็กส์จัด
ผู้หญิงอวบอัดมักทำศัลยกรรม
เค้าว่ากันว่า....
ผู้ชายนิสัยดีมักจะขี้เหร่
ผู้ชายที่หล่อมักไม่สุภาพ
ผู้ชายที่ทั้งหล่อ และสุภาพ มักเป็นเกย์
ผู้ชายที่หล่อ สุภาพ และไม่ใช่เกย์ มักแต่งงานแล้ว
ผู้ชายที่ไม่ค่อยหล่อ และนิสัยดี มักไม่มีสตางค์
ผู้ชายที่หล่อ นิสัยดี และมีสตางค์ มักจะคิดว่าเราเห็นแก่สตางค์ของเขา
ผู้ชายที่หล่อ แต่ไม่มีสตางค์ มักจะเห็นแก่สตางค์ของเรา
ผู้ชายที่หล่อและเป็นชายแท้ แต่นิสัยไม่ดี มักจะคิดว่าเราไม่สวยพอ
ผู้ชายที่เห็นว่าเราสวย และเหมาะกับเขา มักเป็นคนขาดความมั่นใจ
ผู้ชายที่หล่อ สุภาพ มีฐานะ และเป็นชายแท้ มักจะขี้อาย และกลัวการเริ่มต้น
ผู้ชายที่กลัวการเริ่มต้น มักเป็นผู้ชายที่ผู้หญิงไม่สนใจ
เค้าว่ากันว่า....
ผู้หญิงเก่งมักชอบบงการ
ผู้หญิงเก่งที่ไม่ชอบบงการ มักเสแสร้งเฉพาะช่วงแรกๆ
ผู้หญิงสวยมักจะโง่ แต่ผู้หญิงโง่ๆ มักจะรวย
ผู้หญิงที่ไม่โง่ และรวย มักไม่ยอมแต่งงาน
ผู้หญิงที่ไม่โง่ รวย และไม่ยอมแต่งงาน มักชอบคนมีครอบครัวแล้ว
เอ... แล้วคุณล่ะเป็นแบบไหน อิอิ!!
แบบทดสอบขึ้น ป.1
แบบทดสอบขึ้น ป.1
ท่านรัฐมนตรีศึกษาเดินเข้าไปในโรงเรียนอนุบาลประจำจังหวัด
พร้อมคณะ มีทั้งอธิบดี ผู้ตรวจราชการกระทรวง และ ผอ.ประถมศึกษาจังหวัด
ซึ่งนำท่านเข้าไปในห้องเรียนของชั้นอนุบาล 3 ที่เตรียมตัวขึ้น ป.1 ในปี
ถัดมา
ผอ.โรงเรียนก็กล่าวแนะนำครูประจำชั้น
ท่านรัฐมนตรีบอกว่าจะขอให้ครูที่ติดตามมาจากกรุงเทพเป็นผู้ทดสอบความรู้
เด็ก
เพื่อจะดูว่าเด็กพร้อมที่จะขึ้นเรียน ป.1 ได้หรือไม่
เหตุที่ท่านไม่ให้ครูประจำชั้นทดสอบ เพราะเกรงว่าจะรู้กันกับเด็ก
ครูผู้ติดตามเป็นผู้หญิง สวมแว่นหน้าตาดี หุ่นดี
ท่าทางบอกชัดว่าเป็นนักเรียนนอก
เธอชี้ไปที่เด็กชายหน้าตาน่าสงสาร ขี้มูกเปื้อนร่องจมูกเป็นคราบ
แล้วเธอก็พูดเสียงดังฟังชัดว่า
"หนูลุกขึ้นซิจ๊ะ หนูชื่ออะไร"
"ผม..เด็กชาย ม้ง ครับ" เด็กตอบเบาๆ
"หนูม้ง หนูตอบครูดังๆนะจ๊ะ ครูเป็นผู้หญิง แล้วหนูล่ะเป็นอะไร"
"ผู้ชาย ครับ" ตอบดังขึ้นแล้ว
"เอาละ คำถามข้อ 1 ครูมีอะไรที่หนูไม่มี ตอบได้ไหม"
เด็กชะงักนิดหนึ่ง
แล้วตอบว่า "แว่นตา ครับ"
...ท่านรัฐมนตรีทำตาโต ครางฮือ
"ถูกต้อง เก่งมาก ..เอานะทีนี้ ...ข้อ 2 อะไรที่เวลาหมามันทำ
มันยืนสามขา
แต่ถ้าครูทำ ครูยืนทำก็ได้นั่งทำก็ได้"
ท่านรัฐมนตรีทำตาโตกว่าเก่าอีก
ขยับเน็คไทลงอีกเล็กน้อยเพื่อให้หายใจได้
คล่อง
"เช็คแฮนด์ครับ" ด.ช.ม้งตอบเสียงดังกว่าเก่า
"เก่งมาก ถูกต้อง" คุณครูตบมือ หัวเราะร่า
"คราวนี้ข้อ 3 ...อะไรที่สะกดตัวหน้าด้วยสระเอ แล้วมีขีด
ข้างบนขีดมีไม้ไต่คู้อยู่ แล้วตามด้วย..ดอเด็ก..
หนูต้องเติมตัวอะไรไปในช่องที่เว้นไว้
จะมีความหมายว่าของสองสิ่งกระทบกัน
"
เด็กทำหน้างง รัฐมนตรีทำตาถลนออกมานอกเบ้า
ครูสาวเห็นเด็กงง หันหลังกลับคว้าชอล์คเขียนบนกระดานดำ
"เขียนอย่างนี้จ้ะ" แล้วเธอก็บรรจงเขียนตัวโต "เ...็..ด"
แล้วบอกว่า "ที่หมายความว่า...ของสองสิ่งกระทบกัน...ตอบได้ไม้คะ?"
พอถึงตรงนี้ รัฐมนตรีดึงปมเน็คไทลงเกือบสุด ตาถลนเหลือกลาน
เด็กน้อยตะโกนตอบ เสียงลั่นห้อง
"เช็ดครับ! ...เติม ช.ช้าง! อ่านว่า เช็ด เช็ด!! ครับพ้ม !!!"
"ถูกต้องๆๆ ถูกต้องที่สุดเลย...หนูเก่งมาก เก่งจริงๆ...
คราวนี้ข้อที่สี่
..."
รัฐมนตรี กุมหัวใจตัวเอง โบกมือหยอยๆไปมา
"พอแล้ว พอแล้ว ทดสอบแค่นี้พอแล้ว" รัฐมนตรีบอกเสียงสั่นระรัว
อธิบดีกรมสามัญที่ตามมาด้วยถามว่า
"เป็นไงครับท่าน ด.ช.ม้ง พอจะขึ้นปอหนึ่งได้ไม้ครับ"
"ให้ขึ้นปอแปดไปเลย!!" ท่านรัฐมนตรีประกาศ
"อ้าว! ทำไมถึงท่านให้พาสชั้นอย่างนั้นล่ะครับ!!"
ท่านรัฐมนตรี มองหน้าอธิบดีกรมสามัญอย่างหดหู่ แล้วบอกเสียงเครือว่า
"ก็ที่ครูผู้หญิงเธอถามน่ะ..ผมตอบผิดทุกข้อเลย จะอะไรซะอีก!!!"
ท่านรัฐมนตรีศึกษาเดินเข้าไปในโรงเรียนอนุบาลประจำจังหวัด
พร้อมคณะ มีทั้งอธิบดี ผู้ตรวจราชการกระทรวง และ ผอ.ประถมศึกษาจังหวัด
ซึ่งนำท่านเข้าไปในห้องเรียนของชั้นอนุบาล 3 ที่เตรียมตัวขึ้น ป.1 ในปี
ถัดมา
ผอ.โรงเรียนก็กล่าวแนะนำครูประจำชั้น
ท่านรัฐมนตรีบอกว่าจะขอให้ครูที่ติดตามมาจากกรุงเทพเป็นผู้ทดสอบความรู้
เด็ก
เพื่อจะดูว่าเด็กพร้อมที่จะขึ้นเรียน ป.1 ได้หรือไม่
เหตุที่ท่านไม่ให้ครูประจำชั้นทดสอบ เพราะเกรงว่าจะรู้กันกับเด็ก
ครูผู้ติดตามเป็นผู้หญิง สวมแว่นหน้าตาดี หุ่นดี
ท่าทางบอกชัดว่าเป็นนักเรียนนอก
เธอชี้ไปที่เด็กชายหน้าตาน่าสงสาร ขี้มูกเปื้อนร่องจมูกเป็นคราบ
แล้วเธอก็พูดเสียงดังฟังชัดว่า
"หนูลุกขึ้นซิจ๊ะ หนูชื่ออะไร"
"ผม..เด็กชาย ม้ง ครับ" เด็กตอบเบาๆ
"หนูม้ง หนูตอบครูดังๆนะจ๊ะ ครูเป็นผู้หญิง แล้วหนูล่ะเป็นอะไร"
"ผู้ชาย ครับ" ตอบดังขึ้นแล้ว
"เอาละ คำถามข้อ 1 ครูมีอะไรที่หนูไม่มี ตอบได้ไหม"
เด็กชะงักนิดหนึ่ง
แล้วตอบว่า "แว่นตา ครับ"
...ท่านรัฐมนตรีทำตาโต ครางฮือ
"ถูกต้อง เก่งมาก ..เอานะทีนี้ ...ข้อ 2 อะไรที่เวลาหมามันทำ
มันยืนสามขา
แต่ถ้าครูทำ ครูยืนทำก็ได้นั่งทำก็ได้"
ท่านรัฐมนตรีทำตาโตกว่าเก่าอีก
ขยับเน็คไทลงอีกเล็กน้อยเพื่อให้หายใจได้
คล่อง
"เช็คแฮนด์ครับ" ด.ช.ม้งตอบเสียงดังกว่าเก่า
"เก่งมาก ถูกต้อง" คุณครูตบมือ หัวเราะร่า
"คราวนี้ข้อ 3 ...อะไรที่สะกดตัวหน้าด้วยสระเอ แล้วมีขีด
ข้างบนขีดมีไม้ไต่คู้อยู่ แล้วตามด้วย..ดอเด็ก..
หนูต้องเติมตัวอะไรไปในช่องที่เว้นไว้
จะมีความหมายว่าของสองสิ่งกระทบกัน
"
เด็กทำหน้างง รัฐมนตรีทำตาถลนออกมานอกเบ้า
ครูสาวเห็นเด็กงง หันหลังกลับคว้าชอล์คเขียนบนกระดานดำ
"เขียนอย่างนี้จ้ะ" แล้วเธอก็บรรจงเขียนตัวโต "เ...็..ด"
แล้วบอกว่า "ที่หมายความว่า...ของสองสิ่งกระทบกัน...ตอบได้ไม้คะ?"
พอถึงตรงนี้ รัฐมนตรีดึงปมเน็คไทลงเกือบสุด ตาถลนเหลือกลาน
เด็กน้อยตะโกนตอบ เสียงลั่นห้อง
"เช็ดครับ! ...เติม ช.ช้าง! อ่านว่า เช็ด เช็ด!! ครับพ้ม !!!"
"ถูกต้องๆๆ ถูกต้องที่สุดเลย...หนูเก่งมาก เก่งจริงๆ...
คราวนี้ข้อที่สี่
..."
รัฐมนตรี กุมหัวใจตัวเอง โบกมือหยอยๆไปมา
"พอแล้ว พอแล้ว ทดสอบแค่นี้พอแล้ว" รัฐมนตรีบอกเสียงสั่นระรัว
อธิบดีกรมสามัญที่ตามมาด้วยถามว่า
"เป็นไงครับท่าน ด.ช.ม้ง พอจะขึ้นปอหนึ่งได้ไม้ครับ"
"ให้ขึ้นปอแปดไปเลย!!" ท่านรัฐมนตรีประกาศ
"อ้าว! ทำไมถึงท่านให้พาสชั้นอย่างนั้นล่ะครับ!!"
ท่านรัฐมนตรี มองหน้าอธิบดีกรมสามัญอย่างหดหู่ แล้วบอกเสียงเครือว่า
"ก็ที่ครูผู้หญิงเธอถามน่ะ..ผมตอบผิดทุกข้อเลย จะอะไรซะอีก!!!"
สัญญาณเตือนเมื่อโภชนาการชำรุด
สัญญาณเตือนเมื่อโภชนาการชำรุด
ร่างกายของคุณเกิดมีปฏิกิริยาตอบกลับมาเป็นผดผื่น คัน ผิวหนังลอกเป็นขุยแล้วล่ะก็ แสดงว่าคุณกำลังทาน
อาหารไม่ถูกต้องอยู่นะคะ วันนี้เราจึงนำ สัญญาณ 10 ประการที่ร่างกายคุณฟ้องว่าคุณทานอาหารไม่
เหมาะสมมาฝากกัน
1. ผิวหนังมีปัญหา เช่น มีอาการคัน หรือลอกเป็นขุย แม้จะไม่ใช่ช่วงหน้าหนาว อาการเช่นนี้อาจเป็น
ลักษณะของการ ขาดวิตามิน A ผักและผลไม้ ที่มีสีเหลือง สีส้ม หรือสีเขียวเข้ม ล้วนแต่อุดมไปด้วย
วิตามิน A เพียงพอที่จะทำให้ผิวคุณเป็นปกติ ไม่ควรทานวิตามิน A เสริมที่อยู่ในรูปแบบเม็ด เพราะการ
ได้รับโดยตรงเช่นนี้มากเกินไปจะเป็นอันตรายได้
2. ผมไม่เงางาม ในกรณีที่รุนแรง ผมของคุณจะไม่สามารถจัดทรงได้เลย เป็นผลมาจากการ ขาด
โปรตีนและธาตุเหล็ก โดยเฉพาะกลุ่มคนที่เป็นมังสวิรัติ หรือคนที่จำกัดอาหารอย่างมาก ดังนั้นคุณจึง
ควรที่จะทานอาหารที่มีกากใยควบคู่ไปกับการออกกำลังกาย
ส่วนคนที่เป็นมังสวิรัติ ต้องได้สารอาหารจาก พืชผัก ข้าว และ ถั่ว ในอัตราส่วนที่เหมาะสม เพื่อที่จะได้
โปรตีนทดแทนโปรตีนจากเนื้อสัตว์ที่ขาดไป และเพิ่มเติมด้วยกะหล่ำดอก และผลไม้เปลือกแข็ง เช่น
เกาลัด ถั่วแขก และถั่วเหลือง ซึ่งอุดมไปด้วยไบโอติน
3. ท้องผูก เป็นอาการที่กำลังบอกคุณว่า คุณต้องได้สารอาหารพวก ไฟเบอร์ หรืออาหารที่มีกากใย เช่น
ผักผลไม้ต่าง ๆ อย่างน้อยวันละ 25 กรัม และดื่มน้ำให้มากขึ้นด้วย
4. ผายลมบ่อย ( ตด...เหม็น) แม้ว่าไฟเบอร์จะมีประโยชน์ แต่ถ้ากินมากเกินไป หรือได้รับสาร
อาหารประเภทนี้เร็วเกินไป เช่น กินถั่ว หรือไม้จำพวกที่มีฝัก เช่น กระถิน ทองหลาง ร่างกายของคุณ
จะผลิตแก๊สตามออกมามากกว่าอาหารที่ย่อยง่ายตามปกติ
วิธีแก้ปัญหาคือค่อย ๆ เพิ่มสารอาหารพวกไฟเบอร์อย่างช้า ๆ ถ้าคุณเคยกินแค่เพียงวันละ 10 กรัม
อย่าผลีผลามเพิ่มเป็น 25 กรัมในวันรุ่งขึ้น ในสัปดาห์แรกเพิ่มแค่เพียง 5 กรัม แล้วสัปดาห์ต่อมาค่อย
เพิ่มอีก 5 กรัม
5. ข้อต่อมีเสียงดังหรือปวดบริเวณข้อต่อ อย่าเพิ่งไปโทษโรคข้ออักเสบ อาจเป็นไปได้ว่าคุณกิน ปลาน้อย
เกินไป กรดไขมันประเภทโอเมก้า -3 ที่พบมากในปลา เช่น ปลาแซลมอน ปลาทูน่า จะทำให้ข้อต่อ
ของคุณเคลื่อนไหวได้สะดวกขึ้น ซึ่งจะช่วยให้กระแสโลหิตไหลเวียนดีขึ้น ลดอาการบวมและปวดบริเวณ
ข้อต่อ
6. สเปิร์มน้อยลงไปมาก ถ้าคุณกำลังพยายามที่จะมีลูก และมีปัญหาระดับของสเปิร์มต่ำกว่าปกติ อาจ
เป็นไปได้ว่าคุณ ขาดวิตามิน C ซึ่งเป็นตัวสำคัญในการกระตุ้นการทำงานระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย
จาก การศึกษาพบว่า วิตามิน C ยังช่วยในการรักษาปริมาณและความสมบูรณ์ของตัวสเปิร์มด้วย Earl Dawson, Ph.D., ที่ University of Texas Medical Branch ที่ Galveston แนะนำว่าให้ผู้
ชายดื่มน้ำส้มอย่างน้อยวันละประมาณ 1 ลิตรทุกวัน โดยบอกว่าวิตามิน C มีส่วนช่วยป้องกัน
สเปิร์มจากอันตรายและความเสียหายในทุกๆ ด้าน
7. หัวใจเต้นผิดปกติ หัวใจของคนเราเป็นกล้ามเนื้อที่มีการบีบตัวมากกว่า 100,000 ครั้งต่อวัน คงไม่
สามารถทำงานอย่างสมบูรณ์แบบได้ตลอดเวลา แต่ถ้าอยู่ ๆ คุณรู้สึกว่าหัวใจเต้นเร็วกว่าปกติ หรือ
เต้น ๆ หยุด ๆ โดยไม่มีเหตุผล ถ้ามีอาการเจ็บปวด หรือหน้ามืด เวียนศีรษะด้วย ให้รีบไปพบแพทย์
ทันที แต่ถ้าแพทย์พบว่าไม่มีอะไรผิดปกติ แต่หัวใจคุณก็ยังมีอาการเต้นผิดปกติในบางครั้ง คุณอาจจะ
ขาดสารอาหารพวกแม็กนีเซียมหรือโปแตสเซียม
สำหรับโปแตสเซียม ให้ดื่มน้ำส้มวันละ 2-3 แก้ว ช่วงอาหารเช้าให้เพิ่มกล้วยเข้าไปในส่วนหนึ่งของ
เมนู สำหรับแม็กนีเซียม ให้ทานอาหารว่างที่เป็นพวกเม็ดมะม่วงหิมพานต์ เมล็ดทานตะวัน หรือเมล็ด
ฟักทอง และผักโขม เป็นอีกตัวหนึ่งที่มีแร่ธาตุช่วยในการทำงานของหัวใจ
8. ปวดเหงือก ถ้าการเจ็บปวดเกิดจากการอักเสบ ก่อให้เกิดความเจ็บปวดและปัญหาของเหงือก แสดง
ว่าปากของคุณกำลังต้องการ แบคทีเรียที่มีประโยชน์ ให้มาช่วยจัดการกับแบคทีเรียในปากที่มีอันตราย ให้
กินโยเกิร์ตที่มีแบคทีเรียที่เราต้องการเป็นอาหารว่างในช่วงเช้าของทุกวัน
9. กระดูกแตก ถ้ากระดูกคุณแตกมากกว่า 2-3 ครั้งตั้งแต่โตเป็นผู้ใหญ่ อาจเป็นไปได้ว่ากระดูกของคุณ
อยู่ในภาวะอ่อนแอ อาจมีสาเหตุมาจากการขาดวิตามิน D และแคลเซียม ซึ่งเป็นตัวประกอบที่สำคัญใน
การสร้างกระดูก ผู้ชายก็ต้องการแคลเซียมมากเหมือน ๆ ผู้หญิง เพราะผู้ชายมักจะกินเนื้อ
มากกว่า ซึ่งอุดมไปด้วยฟอสฟอรัส ยิ่งร่างกายได้รับฟอสฟอรัสมากเท่าไร ก็ยิ่งต้องการแคลเซียม
มากขึ้นเท่านั้น อาหารที่อุดมไปด้วยแคลเซียม ได้แก่ ปลาเล็กปลาน้อย กุ้งแห้ง โยเกิร์ต นมและเนยแข็ง
(ไขมันต่ำได้ก็ดี)
10. ขี้ลืม อาจเป็นได้ว่าคุณขาดวิตามิน B ในการศึกษาที่ USDA Human Nutrition Research Center in Boston นักวิจัยพบว่าผู้ชายที่มีระดับของวิตามิน B 6 B 12 และ B folate สูงใน
เลือด จะมีความทรงจำที่ดีกว่าจากการทดสอบพบว่าสารอาหารพวกนี้ช่วยให้สมองทำงานได้เต็มที่ และยัง
ช่วยควบคุม homocysteine ซึ่งเป็นกรดอะมิโนชนิดหนึ่งที่อยู่ในร่างกาย ซึ่งเป็นตัวขัดขวางการที่
เลือดจะไปหล่อเลี้ยงสมอง ถั่วเป็นอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามิน B 6 และโฟเลต มากที่สุด และไม่
ต้องกังวลกับการขาดวิตามิน B 12 เพราะมีมากในเนื้อสัตว์และอาหารทะเล
หมั่นสังเกตตัวเองสักนิด
แล้วจะรู้ว่าร่างกายของท่านเรียกร้องอะไร
ร่างกายของคุณเกิดมีปฏิกิริยาตอบกลับมาเป็นผดผื่น คัน ผิวหนังลอกเป็นขุยแล้วล่ะก็ แสดงว่าคุณกำลังทาน
อาหารไม่ถูกต้องอยู่นะคะ วันนี้เราจึงนำ สัญญาณ 10 ประการที่ร่างกายคุณฟ้องว่าคุณทานอาหารไม่
เหมาะสมมาฝากกัน
1. ผิวหนังมีปัญหา เช่น มีอาการคัน หรือลอกเป็นขุย แม้จะไม่ใช่ช่วงหน้าหนาว อาการเช่นนี้อาจเป็น
ลักษณะของการ ขาดวิตามิน A ผักและผลไม้ ที่มีสีเหลือง สีส้ม หรือสีเขียวเข้ม ล้วนแต่อุดมไปด้วย
วิตามิน A เพียงพอที่จะทำให้ผิวคุณเป็นปกติ ไม่ควรทานวิตามิน A เสริมที่อยู่ในรูปแบบเม็ด เพราะการ
ได้รับโดยตรงเช่นนี้มากเกินไปจะเป็นอันตรายได้
2. ผมไม่เงางาม ในกรณีที่รุนแรง ผมของคุณจะไม่สามารถจัดทรงได้เลย เป็นผลมาจากการ ขาด
โปรตีนและธาตุเหล็ก โดยเฉพาะกลุ่มคนที่เป็นมังสวิรัติ หรือคนที่จำกัดอาหารอย่างมาก ดังนั้นคุณจึง
ควรที่จะทานอาหารที่มีกากใยควบคู่ไปกับการออกกำลังกาย
ส่วนคนที่เป็นมังสวิรัติ ต้องได้สารอาหารจาก พืชผัก ข้าว และ ถั่ว ในอัตราส่วนที่เหมาะสม เพื่อที่จะได้
โปรตีนทดแทนโปรตีนจากเนื้อสัตว์ที่ขาดไป และเพิ่มเติมด้วยกะหล่ำดอก และผลไม้เปลือกแข็ง เช่น
เกาลัด ถั่วแขก และถั่วเหลือง ซึ่งอุดมไปด้วยไบโอติน
3. ท้องผูก เป็นอาการที่กำลังบอกคุณว่า คุณต้องได้สารอาหารพวก ไฟเบอร์ หรืออาหารที่มีกากใย เช่น
ผักผลไม้ต่าง ๆ อย่างน้อยวันละ 25 กรัม และดื่มน้ำให้มากขึ้นด้วย
4. ผายลมบ่อย ( ตด...เหม็น) แม้ว่าไฟเบอร์จะมีประโยชน์ แต่ถ้ากินมากเกินไป หรือได้รับสาร
อาหารประเภทนี้เร็วเกินไป เช่น กินถั่ว หรือไม้จำพวกที่มีฝัก เช่น กระถิน ทองหลาง ร่างกายของคุณ
จะผลิตแก๊สตามออกมามากกว่าอาหารที่ย่อยง่ายตามปกติ
วิธีแก้ปัญหาคือค่อย ๆ เพิ่มสารอาหารพวกไฟเบอร์อย่างช้า ๆ ถ้าคุณเคยกินแค่เพียงวันละ 10 กรัม
อย่าผลีผลามเพิ่มเป็น 25 กรัมในวันรุ่งขึ้น ในสัปดาห์แรกเพิ่มแค่เพียง 5 กรัม แล้วสัปดาห์ต่อมาค่อย
เพิ่มอีก 5 กรัม
5. ข้อต่อมีเสียงดังหรือปวดบริเวณข้อต่อ อย่าเพิ่งไปโทษโรคข้ออักเสบ อาจเป็นไปได้ว่าคุณกิน ปลาน้อย
เกินไป กรดไขมันประเภทโอเมก้า -3 ที่พบมากในปลา เช่น ปลาแซลมอน ปลาทูน่า จะทำให้ข้อต่อ
ของคุณเคลื่อนไหวได้สะดวกขึ้น ซึ่งจะช่วยให้กระแสโลหิตไหลเวียนดีขึ้น ลดอาการบวมและปวดบริเวณ
ข้อต่อ
6. สเปิร์มน้อยลงไปมาก ถ้าคุณกำลังพยายามที่จะมีลูก และมีปัญหาระดับของสเปิร์มต่ำกว่าปกติ อาจ
เป็นไปได้ว่าคุณ ขาดวิตามิน C ซึ่งเป็นตัวสำคัญในการกระตุ้นการทำงานระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย
จาก การศึกษาพบว่า วิตามิน C ยังช่วยในการรักษาปริมาณและความสมบูรณ์ของตัวสเปิร์มด้วย Earl Dawson, Ph.D., ที่ University of Texas Medical Branch ที่ Galveston แนะนำว่าให้ผู้
ชายดื่มน้ำส้มอย่างน้อยวันละประมาณ 1 ลิตรทุกวัน โดยบอกว่าวิตามิน C มีส่วนช่วยป้องกัน
สเปิร์มจากอันตรายและความเสียหายในทุกๆ ด้าน
7. หัวใจเต้นผิดปกติ หัวใจของคนเราเป็นกล้ามเนื้อที่มีการบีบตัวมากกว่า 100,000 ครั้งต่อวัน คงไม่
สามารถทำงานอย่างสมบูรณ์แบบได้ตลอดเวลา แต่ถ้าอยู่ ๆ คุณรู้สึกว่าหัวใจเต้นเร็วกว่าปกติ หรือ
เต้น ๆ หยุด ๆ โดยไม่มีเหตุผล ถ้ามีอาการเจ็บปวด หรือหน้ามืด เวียนศีรษะด้วย ให้รีบไปพบแพทย์
ทันที แต่ถ้าแพทย์พบว่าไม่มีอะไรผิดปกติ แต่หัวใจคุณก็ยังมีอาการเต้นผิดปกติในบางครั้ง คุณอาจจะ
ขาดสารอาหารพวกแม็กนีเซียมหรือโปแตสเซียม
สำหรับโปแตสเซียม ให้ดื่มน้ำส้มวันละ 2-3 แก้ว ช่วงอาหารเช้าให้เพิ่มกล้วยเข้าไปในส่วนหนึ่งของ
เมนู สำหรับแม็กนีเซียม ให้ทานอาหารว่างที่เป็นพวกเม็ดมะม่วงหิมพานต์ เมล็ดทานตะวัน หรือเมล็ด
ฟักทอง และผักโขม เป็นอีกตัวหนึ่งที่มีแร่ธาตุช่วยในการทำงานของหัวใจ
8. ปวดเหงือก ถ้าการเจ็บปวดเกิดจากการอักเสบ ก่อให้เกิดความเจ็บปวดและปัญหาของเหงือก แสดง
ว่าปากของคุณกำลังต้องการ แบคทีเรียที่มีประโยชน์ ให้มาช่วยจัดการกับแบคทีเรียในปากที่มีอันตราย ให้
กินโยเกิร์ตที่มีแบคทีเรียที่เราต้องการเป็นอาหารว่างในช่วงเช้าของทุกวัน
9. กระดูกแตก ถ้ากระดูกคุณแตกมากกว่า 2-3 ครั้งตั้งแต่โตเป็นผู้ใหญ่ อาจเป็นไปได้ว่ากระดูกของคุณ
อยู่ในภาวะอ่อนแอ อาจมีสาเหตุมาจากการขาดวิตามิน D และแคลเซียม ซึ่งเป็นตัวประกอบที่สำคัญใน
การสร้างกระดูก ผู้ชายก็ต้องการแคลเซียมมากเหมือน ๆ ผู้หญิง เพราะผู้ชายมักจะกินเนื้อ
มากกว่า ซึ่งอุดมไปด้วยฟอสฟอรัส ยิ่งร่างกายได้รับฟอสฟอรัสมากเท่าไร ก็ยิ่งต้องการแคลเซียม
มากขึ้นเท่านั้น อาหารที่อุดมไปด้วยแคลเซียม ได้แก่ ปลาเล็กปลาน้อย กุ้งแห้ง โยเกิร์ต นมและเนยแข็ง
(ไขมันต่ำได้ก็ดี)
10. ขี้ลืม อาจเป็นได้ว่าคุณขาดวิตามิน B ในการศึกษาที่ USDA Human Nutrition Research Center in Boston นักวิจัยพบว่าผู้ชายที่มีระดับของวิตามิน B 6 B 12 และ B folate สูงใน
เลือด จะมีความทรงจำที่ดีกว่าจากการทดสอบพบว่าสารอาหารพวกนี้ช่วยให้สมองทำงานได้เต็มที่ และยัง
ช่วยควบคุม homocysteine ซึ่งเป็นกรดอะมิโนชนิดหนึ่งที่อยู่ในร่างกาย ซึ่งเป็นตัวขัดขวางการที่
เลือดจะไปหล่อเลี้ยงสมอง ถั่วเป็นอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามิน B 6 และโฟเลต มากที่สุด และไม่
ต้องกังวลกับการขาดวิตามิน B 12 เพราะมีมากในเนื้อสัตว์และอาหารทะเล
หมั่นสังเกตตัวเองสักนิด
แล้วจะรู้ว่าร่างกายของท่านเรียกร้องอะไร
บอลลูน Balloons
Can you imagine some guy going 90 mph on I-25 with these balloons trailing about a few yards behind him?
Instructions for a fun time on the interstate.....................
Step 1. Tie balloons to car.
Step 2. Drive like crazy....
Step 3. Watch people freak out !!!!
Step 2. Drive like crazy....
Step 3. Watch people freak out !!!!
เลือกของใส่บาตรตามวันเกิด
จงเชื่อในสิ่งที่คุณทำ และจงทำในสิ่งที่คุณเชื่อ
เลือกของใส่บาตรตามวันเกิด
วันอาทิตย์
อาหารคาว : ประเภทไข่ ไข่ดาว ไข่เจียว ไข่ลูกเขย ต้ม แกงกะทิ
อาหารหวาน : ไข่หวาน มะพร้าวอ่อน มะพร้าวแก้ว ขนมใส่กะทิ น้ำกระเจี๊ยบ น้ำมะพร้าว น้ำขิง เงาะ
ของถวายพระ : หลอดไฟ ไฟฉาย เทียน ธูป อุปกรณ์แสงสว่าง แว่นตา หมากพลู
ไหว้พระ : ปางถวายเนตร ( พระประจำวันเกิด) กำลังวันเท่ากับ 6 (สวดแบบย่อ อะ วิช สุ นุส สา นุต ติ)
ทำทาน : เติมน้ำมันตะเกียงตามวัด คนตาบอด โรงพยาบาลโรคตา มูลนิธิคนตาบอด โรงพยาบาลโรคหัวใจ มูลนิธิโรคหัวใจ
พฤติกรรม : ออกรับแสงอาทิตย์อ่อนๆ ช่วงเช้าหรือเย็นๆ เพื่อให้เกิดพลัง อย่าใจร้อน เลิกทิฐิ ทำตัวเป็นประโยชน์ต่อผู้อื่น
วันจันทร์
อาหารคาว : ประเภทสัตว์ปีก สัตว์น้ำ เช่นไก่ผัดขิง ไก่ย่าง ไก่ทอด ปูผัดผงกะหรี่ ปูนึ่ง ข้าวมันไก่ ข้าวผัดปู เต้าหูทอด แกงจืดเต้าหู้ แกงเผ็ดเป็ดย่าง ปลาสลิดทอด
อาหารหวาน : น้ำเต้าหู้ นมถั่วเหลือง น้ำอ้อย โดนัท นมสด นมกล่อง เผือก มันลางสาด ขนมเปี๊ยะ
ของถวายพระ : แก้วน้ำ แจกัน ของโปร่งๆ ใสๆ
ไหว้พระ : ปางห้ามญาติ ( พระประจำวันเกิด) กำลังวัน เท่ากับ 15 ( สวดแบบย่อ อิ ระ ชา คะ ตะ ระ สา)
ทำทาน : มูลนิธิช่วยเหลือสตรี
พฤติกรรม : ทำจิตใจให้สดชื่น แจ่มใส อยู่เสมอ อย่าวิตกกังวลเกินเหตุ ให้ความช่วยเหลือสตรีเช่นลุก ให้สตรีนั่งบนรถเมล์บริหารกล้ามเนื้อหน้าอกให้แข็งแรง
วันอังคาร
อาหารคาว : อาหารประเภทเส้น ขนมจีน วุ้นเส้น บะหมี่ ก๋วยเตี๋ยว เนื้อวัว ปลาช่อนตากแห้งทอด
อาหารหวาน : ฝอยทอง สลิ่ม ลอดช่อง ทุเรียน ระกำ ขนุน น้ำสไปร์ท น้ำอัดลม
ของถวายพระ : เหล็ก เครื่องมือประเภทเหล็ก กรรไกร แปรงสีฟัน ยาสีฟัน พัดลม กรรไกรตัดเล็บ
ไหว้พระ : ปางไสยาสน์ (พระนอน) มีกำลังเท่ากับ 8 (สวดแบบย่อ ติ หัง จะ โต โร ถิ นัง)
ทำทาน : คนพิการทางปาก ปากแหว่ง ผู้ป่วยโรคลมชัก
พฤติกรรม : ทำตัวให้กระฉับกระเฉง ตื่นตัว ขยันให้มากขึ้น ลดอารมณ์ร้อน การชิงดีชิงเด่น
วันพุธ (กลางวัน)
อาหารคาว : เน้นสีเขียว-หมู แกงเขียวหวานหมู หมูปิ้ง หมูทอด ผัดพริกหมู คะน้าน้ำมันหอย
อาหารหวาน : ขนมเปียกปูนเขียว น้ำฝรั่ง ชมพู่เขียว องุ่นเขียว มะม่วงเขียวเสวยฝรั่ง ชามะนาว
ของถวายพระ : สมุด กระดาษ ปากกา ดินสอ อุปกรณ์การเรียนการศึกษา
ไหว้พระ : ปางอุ้มบาตร (พระประจำวันเกิด) มีกำลังเท่ากับ 17 (สวดแบบย่อ ปิ สัม ระ โล ปุ สัต พุท )
ทำทาน : คนพิการทางหู โรงพยาบาลโรคสมอง โรงเรียนสอนคนหูหนวก
พฤติกรรม : อ่านหนังสือธรรมะ ร้องเพลง ฝึกสร้างความมั่นใจให้ตนเอง
วันพุธ (กลางคืน)
อาหารคาว : ของหมักดอง ผักกาดดองผัดไข่ อาหารกระป๋อง แกงใบยอ หมูยอ แหนม ไข่เยี่ยวม้า ห่อหมก
อาหารหวาน : ข้าวหมาก ขนมเปียกปูนดำ เฉาก๊วย ข้าวเหนียวดำ เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ผลไม้หัวโตๆ ทุเรียน
ของถวายพระ : พัดลม เทปธรรมะ ยาแก้โรคลม ยาหอม
ไหว้พระ : ปางป่าเลไลย์ ( พระประจำวันเกิด) มีกำลังเท่ากับ 12 (สวดแบบย่อ คะ พุท ปัน ทู ธัม วะ คะ )
ทำทาน : มูลนิธิหรือหน่วยงานที่เกี่ยวกับยาเสพติด
พฤติกรรม : เลิกบุหรี่ เลิกดื่มหรือลดปริมาณการดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด เลิกการพนัน เลิกทำตัวเหลวไหล เลิกเที่ยวกลางคืน เลิกยาเสพติดทุกชนิด
วันพฤหัสบดี
อาหารคาว : ประเภทเถา แกงเลียง บวบผัดไข่ น้ำเต้า
อาหารหวาน : แตงโม แตงไทย น้ำสมุนไพร ส้ม สาลี่ น้ำมะตูม น้ำว่านหางจระเข้
ของถวายพระ : สบง จีวร หนังสือธรรมะ ตู้ยา โต๊ะหมู่บูชา
ไหว้พระ : ปางสมาธิ ( พระประจำวันเกิด) มีกำลังเท่ากับ 19 ( สวดแบบย่อ ภะ สัม สัม วิ สะ เท ภะ)
ทำทาน : โรงพยาบาลสงฆ์ บริจาคข้าวสาร เสื้อผ้า ผ้าห่มกันหนาว
พฤติกรรม : นั่งสมาธิ สวดมนต์ ถือศีล5 อย่าซื่อจนเกินไป
วันศุกร์
อาหารคาว : ประเภทของหอม หวาน ข้าวหอมมะลิ ผักกาดหอม ไข่เจียวหอมใหญ่ ยำหัวหอม
อาหารหวาน : ขนมหวาน หอมทุกชนิด น้ำเก๊กฮวย ผลไม้ที่มีกลิ่นหอม กล้วยหอม เค้ก
ของถวายพระ : นาฬิกา โต๊ะรับแขก ดอกไม้สวยหอม ระฆัง ย่าม
ไหว้พระ : ปางรำพึง ( พระประจำวันเกิด) มีกำลังเท่ากับ 21 ( สวดแบบย่อ วา โธ โน อะ มะ มะ วา)
ทำทาน : เด็กด้อยโอกาส ให้เงิน ให้เสื้อผ้า อาหารที่หอมหวานชวนกิน เช่น ไอศกรีม
พฤติกรรม : ทำตัวให้สดชื่นแจ่มใส บำรุง ดูแลตัวเองให้ดูดีอยู่ตลอด จัดสิ่งแวดล้อมให้น่าอยู่ สวยงาม เลิกการฟุ่มเฟือย
วันเสาร์
อาหารคาว : ประเภทของขม ของดำมะระยัดไส้ สะเดาน้ำปลาหวาน น้ำพริกปลาทู มะเขือยาว
อาหารหวาน : ลูกตาลเชื่อม กาแฟ โอเลี้ยง
ของถวายพระ : ร่มสีดำ กระเบื้องมุงหลังคา ไม้กวาด สร้างห้องน้ำถวายวัด
ไหว้พระ : ปางนาคปรก ( พระประจำวันเกิด) มีกำลังเท่ากับ 10 ( สวดแบบย่อ โส มา ณะ กะ ระ ถา โธ)
ทำทาน : โรงพยาบาลโรคจิต โรงพยาบาลโรคประสาท
พฤติกรรม : กวาดลานวัด ล้างห้องน้ำวัด ไม่เครียด มองโลกในแง่ดี ขยะในบ้านยกทิ้งทุกวัน อย่าหมักหมม
เลือกของใส่บาตรตามวันเกิด
วันอาทิตย์
อาหารคาว : ประเภทไข่ ไข่ดาว ไข่เจียว ไข่ลูกเขย ต้ม แกงกะทิ
อาหารหวาน : ไข่หวาน มะพร้าวอ่อน มะพร้าวแก้ว ขนมใส่กะทิ น้ำกระเจี๊ยบ น้ำมะพร้าว น้ำขิง เงาะ
ของถวายพระ : หลอดไฟ ไฟฉาย เทียน ธูป อุปกรณ์แสงสว่าง แว่นตา หมากพลู
ไหว้พระ : ปางถวายเนตร ( พระประจำวันเกิด) กำลังวันเท่ากับ 6 (สวดแบบย่อ อะ วิช สุ นุส สา นุต ติ)
ทำทาน : เติมน้ำมันตะเกียงตามวัด คนตาบอด โรงพยาบาลโรคตา มูลนิธิคนตาบอด โรงพยาบาลโรคหัวใจ มูลนิธิโรคหัวใจ
พฤติกรรม : ออกรับแสงอาทิตย์อ่อนๆ ช่วงเช้าหรือเย็นๆ เพื่อให้เกิดพลัง อย่าใจร้อน เลิกทิฐิ ทำตัวเป็นประโยชน์ต่อผู้อื่น
วันจันทร์
อาหารคาว : ประเภทสัตว์ปีก สัตว์น้ำ เช่นไก่ผัดขิง ไก่ย่าง ไก่ทอด ปูผัดผงกะหรี่ ปูนึ่ง ข้าวมันไก่ ข้าวผัดปู เต้าหูทอด แกงจืดเต้าหู้ แกงเผ็ดเป็ดย่าง ปลาสลิดทอด
อาหารหวาน : น้ำเต้าหู้ นมถั่วเหลือง น้ำอ้อย โดนัท นมสด นมกล่อง เผือก มันลางสาด ขนมเปี๊ยะ
ของถวายพระ : แก้วน้ำ แจกัน ของโปร่งๆ ใสๆ
ไหว้พระ : ปางห้ามญาติ ( พระประจำวันเกิด) กำลังวัน เท่ากับ 15 ( สวดแบบย่อ อิ ระ ชา คะ ตะ ระ สา)
ทำทาน : มูลนิธิช่วยเหลือสตรี
พฤติกรรม : ทำจิตใจให้สดชื่น แจ่มใส อยู่เสมอ อย่าวิตกกังวลเกินเหตุ ให้ความช่วยเหลือสตรีเช่นลุก ให้สตรีนั่งบนรถเมล์บริหารกล้ามเนื้อหน้าอกให้แข็งแรง
วันอังคาร
อาหารคาว : อาหารประเภทเส้น ขนมจีน วุ้นเส้น บะหมี่ ก๋วยเตี๋ยว เนื้อวัว ปลาช่อนตากแห้งทอด
อาหารหวาน : ฝอยทอง สลิ่ม ลอดช่อง ทุเรียน ระกำ ขนุน น้ำสไปร์ท น้ำอัดลม
ของถวายพระ : เหล็ก เครื่องมือประเภทเหล็ก กรรไกร แปรงสีฟัน ยาสีฟัน พัดลม กรรไกรตัดเล็บ
ไหว้พระ : ปางไสยาสน์ (พระนอน) มีกำลังเท่ากับ 8 (สวดแบบย่อ ติ หัง จะ โต โร ถิ นัง)
ทำทาน : คนพิการทางปาก ปากแหว่ง ผู้ป่วยโรคลมชัก
พฤติกรรม : ทำตัวให้กระฉับกระเฉง ตื่นตัว ขยันให้มากขึ้น ลดอารมณ์ร้อน การชิงดีชิงเด่น
วันพุธ (กลางวัน)
อาหารคาว : เน้นสีเขียว-หมู แกงเขียวหวานหมู หมูปิ้ง หมูทอด ผัดพริกหมู คะน้าน้ำมันหอย
อาหารหวาน : ขนมเปียกปูนเขียว น้ำฝรั่ง ชมพู่เขียว องุ่นเขียว มะม่วงเขียวเสวยฝรั่ง ชามะนาว
ของถวายพระ : สมุด กระดาษ ปากกา ดินสอ อุปกรณ์การเรียนการศึกษา
ไหว้พระ : ปางอุ้มบาตร (พระประจำวันเกิด) มีกำลังเท่ากับ 17 (สวดแบบย่อ ปิ สัม ระ โล ปุ สัต พุท )
ทำทาน : คนพิการทางหู โรงพยาบาลโรคสมอง โรงเรียนสอนคนหูหนวก
พฤติกรรม : อ่านหนังสือธรรมะ ร้องเพลง ฝึกสร้างความมั่นใจให้ตนเอง
วันพุธ (กลางคืน)
อาหารคาว : ของหมักดอง ผักกาดดองผัดไข่ อาหารกระป๋อง แกงใบยอ หมูยอ แหนม ไข่เยี่ยวม้า ห่อหมก
อาหารหวาน : ข้าวหมาก ขนมเปียกปูนดำ เฉาก๊วย ข้าวเหนียวดำ เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ผลไม้หัวโตๆ ทุเรียน
ของถวายพระ : พัดลม เทปธรรมะ ยาแก้โรคลม ยาหอม
ไหว้พระ : ปางป่าเลไลย์ ( พระประจำวันเกิด) มีกำลังเท่ากับ 12 (สวดแบบย่อ คะ พุท ปัน ทู ธัม วะ คะ )
ทำทาน : มูลนิธิหรือหน่วยงานที่เกี่ยวกับยาเสพติด
พฤติกรรม : เลิกบุหรี่ เลิกดื่มหรือลดปริมาณการดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด เลิกการพนัน เลิกทำตัวเหลวไหล เลิกเที่ยวกลางคืน เลิกยาเสพติดทุกชนิด
วันพฤหัสบดี
อาหารคาว : ประเภทเถา แกงเลียง บวบผัดไข่ น้ำเต้า
อาหารหวาน : แตงโม แตงไทย น้ำสมุนไพร ส้ม สาลี่ น้ำมะตูม น้ำว่านหางจระเข้
ของถวายพระ : สบง จีวร หนังสือธรรมะ ตู้ยา โต๊ะหมู่บูชา
ไหว้พระ : ปางสมาธิ ( พระประจำวันเกิด) มีกำลังเท่ากับ 19 ( สวดแบบย่อ ภะ สัม สัม วิ สะ เท ภะ)
ทำทาน : โรงพยาบาลสงฆ์ บริจาคข้าวสาร เสื้อผ้า ผ้าห่มกันหนาว
พฤติกรรม : นั่งสมาธิ สวดมนต์ ถือศีล5 อย่าซื่อจนเกินไป
วันศุกร์
อาหารคาว : ประเภทของหอม หวาน ข้าวหอมมะลิ ผักกาดหอม ไข่เจียวหอมใหญ่ ยำหัวหอม
อาหารหวาน : ขนมหวาน หอมทุกชนิด น้ำเก๊กฮวย ผลไม้ที่มีกลิ่นหอม กล้วยหอม เค้ก
ของถวายพระ : นาฬิกา โต๊ะรับแขก ดอกไม้สวยหอม ระฆัง ย่าม
ไหว้พระ : ปางรำพึง ( พระประจำวันเกิด) มีกำลังเท่ากับ 21 ( สวดแบบย่อ วา โธ โน อะ มะ มะ วา)
ทำทาน : เด็กด้อยโอกาส ให้เงิน ให้เสื้อผ้า อาหารที่หอมหวานชวนกิน เช่น ไอศกรีม
พฤติกรรม : ทำตัวให้สดชื่นแจ่มใส บำรุง ดูแลตัวเองให้ดูดีอยู่ตลอด จัดสิ่งแวดล้อมให้น่าอยู่ สวยงาม เลิกการฟุ่มเฟือย
วันเสาร์
อาหารคาว : ประเภทของขม ของดำมะระยัดไส้ สะเดาน้ำปลาหวาน น้ำพริกปลาทู มะเขือยาว
อาหารหวาน : ลูกตาลเชื่อม กาแฟ โอเลี้ยง
ของถวายพระ : ร่มสีดำ กระเบื้องมุงหลังคา ไม้กวาด สร้างห้องน้ำถวายวัด
ไหว้พระ : ปางนาคปรก ( พระประจำวันเกิด) มีกำลังเท่ากับ 10 ( สวดแบบย่อ โส มา ณะ กะ ระ ถา โธ)
ทำทาน : โรงพยาบาลโรคจิต โรงพยาบาลโรคประสาท
พฤติกรรม : กวาดลานวัด ล้างห้องน้ำวัด ไม่เครียด มองโลกในแง่ดี ขยะในบ้านยกทิ้งทุกวัน อย่าหมักหมม
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)